มจธ. ผนึกกำลัง TKC พัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ยกระดับภาคการเกษตรไทย

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมมือกับ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC สร้างความร่วมมือครั้งสำคัญในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มความยั่งยืนให้กับภาคการเกษตรไทย
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ มีขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมี นายปิยะ จิราภาพงศา รองกรรมการผู้จัดการ TKC และ รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มจธ. เป็นผู้ลงนาม
เป้าหมายสำคัญของการร่วมมือ
โครงการนี้มุ่งเน้นการพัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอัจฉริยะ ครอบคลุมด้านต่างๆ ดังนี้:
- การจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics): เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศ ปริมาณน้ำ ความชื้นในดิน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำในการเพาะปลูกและการจัดการพืชผล
- ระบบเซ็นเซอร์และอุปกรณ์ IoT (Internet of Things): ติดตั้งเซ็นเซอร์ในแปลงเกษตรเพื่อตรวจวัดสภาพแวดล้อมและสภาพของพืชผลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้เกษตรกรสามารถปรับปรุงการให้น้ำ การใส่ปุ๋ย และการป้องกันโรคได้อย่างทันท่วงที
- ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์: พัฒนาระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เพื่อช่วยในการเพาะปลูก เก็บเกี่ยว และคัดแยกผลผลิต ลดแรงงานคนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- แพลตฟอร์มการเกษตรอัจฉริยะ: สร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลและให้บริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอัจฉริยะ เช่น การให้คำปรึกษา การจัดการฟาร์ม และการเชื่อมต่อกับตลาด
TKC และ มจธ. บทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ
TKC ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะนำความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาโซลูชันด้าน IoT และ Big Data มาช่วยในการพัฒนาระบบและแพลตฟอร์มการเกษตรอัจฉริยะ
มจธ. ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านเทคโนโลยี จะนำความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และการเกษตร มาช่วยในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรอัจฉริยะ
ความคาดหวังและผลกระทบต่อภาคการเกษตรไทย
ความร่วมมือนี้ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยยกระดับภาคการเกษตรไทยให้มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนมากขึ้น เกษตรกรจะสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้
นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้สารเคมีและน้ำอย่างไม่เหมาะสม และส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความมั่นคงทางอาหารของประเทศ