ดราม่าร้อน! หลวงตาสุจ นักเทศน์ดัง โดนชาวบ้านไม่พอใจ ไลฟ์สดอาบัติหนัก สั่งเขมรยิงคนสุรินทร์
หลวงตาสุจ นักเทศน์ชื่อดัง เจอวิกฤต! ชาวบ้านไม่พอใจ สั่งห้ามสึก ไม่ให้กลับมาเทศน์ที่วัด หลังไลฟ์สดอาบัติหนัก ด่าทอชาวบ้าน และสั่งเขมรยิงคนสุรินทร์ให้ตายหมด
เกิดเหตุการณ์ร้อนแรงในวงการสงฆ์ เมื่อ หลวงตาสุจ นักเทศน์ชื่อดังจากภาคอีสานใต้ ถูกชาวบ้านในจังหวัดสุรินทร์ไม่พอใจอย่างหนักถึงขั้นสั่งห้ามสึก และไม่ให้กลับมาเทศน์ที่วัดอีก หลังจากไลฟ์สดอาบัติหนัก ด้วยการด่าทอชาวบ้าน และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ สั่งให้ชาวกัมพูชา (เขมร) ยิงคนสุรินทร์ให้ตายหมด จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
เหตุเกิดจากอะไร? จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุว่า หลวงตาสุจ ได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขณะที่กำลังเทศน์อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในสุรินทร์ โดยระหว่างไลฟ์สดนั้น พระรูปดังกล่าวได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ด้วยการด่าทอชาวบ้านที่เข้าไปร่วมพิธีอย่างรุนแรง และมีการใช้คำพูดที่ส่อเสียดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพูดที่จุดประเด็น: สิ่งที่สร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับชาวบ้านมากที่สุด คือ การที่หลวงตาสุจ ได้สั่งให้ชาวกัมพูชา (เขมร) ยิงคนสุรินทร์ให้ตายหมด ซึ่งเป็นคำพูดที่รุนแรงและอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจอย่างถึงที่สุด และรวมตัวกันขับไล่พระรูปดังกล่าว พร้อมทั้งประกาศว่าจะไม่ให้หลวงตาสุจ กลับมาเทศน์ที่วัดอีกต่อไป
ผลกระทบที่เกิดขึ้น: หลังจากคลิปไลฟ์สดของหลวงตาสุจ ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง บางส่วนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ และสมควรได้รับการลงโทษอย่างหนัก ในขณะที่บางส่วนพยายามหาเหตุผลเข้าข้าง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคำพูดของหลวงตาสุจ นั้นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ และส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
สถานการณ์ล่าสุด: ปัจจุบัน หลวงตาสุจ ได้เดินทางออกจากวัดในสุรินทร์ แล้ว และยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ ซึ่งยังไม่ทราบว่าพระรูปดังกล่าวจะออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ รวมถึงทางวัดและคณะสงฆ์ จะมีมาตรการใดๆ ในการจัดการกับเรื่องนี้ต่อไป
ข้อคิด: เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลวงตาสุจ ในครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญให้กับพระสงฆ์ และผู้ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ ควรระมัดระวังในการใช้คำพูด และพฤติกรรมของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น และต่อสังคมโดยรวม
