NSL Foods ทุ่ม 800 ล้านบาท อัพเกรดกำลังผลิตแซนด์วิช ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

NSL Foods เดินหน้าลงทุน 800 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตแซนด์วิช หวังตอบสนองดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายสมชาย อัศวปิยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NSL ผู้ผลิตและจำหน่ายแซนด์วิชร้อนยอดนิยมในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเผยถึงแผนการลงทุนครั้งใหญ่ของบริษัท ด้วยการจัดสรรงบประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตแซนด์วิชให้ทันต่อความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนของ NSL โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตและขยายขีดความสามารถในการรองรับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง NSL ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการแซนด์วิชเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน หรือช่วงเวลาที่ผู้บริโภคต้องการอาหารว่างที่สะดวกและรวดเร็ว
รายละเอียดการลงทุน 800 ล้านบาท
- การขยายโรงงานผลิต: NSL จะทำการขยายพื้นที่โรงงานผลิตเดิม และอาจพิจารณาลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตแซนด์วิชให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
- เครื่องจักรและอุปกรณ์: การลงทุนจะครอบคลุมการจัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์
- การพัฒนาบุคลากร: NSL ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ใหม่ๆ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- การวิจัยและพัฒนา: งบประมาณส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการปรับปรุงสูตรและรสชาติของแซนด์วิชให้มีความหลากหลายและน่าสนใจยิ่งขึ้น
นายสมชายกล่าวเพิ่มเติมว่า ความมั่นใจในการลงทุนครั้งนี้มาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ การเติบโตของตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย, พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป, และความสามารถของ NSL ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด
“เราเชื่อมั่นว่าการลงทุน 800 ล้านบาทนี้ จะช่วยให้ NSL สามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดแซนด์วิชร้อนได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคตอีกด้วย” นายสมชายกล่าวสรุป
การลงทุนของ NSL Foods ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของบริษัทในระยะยาว