วิกฤตซ่อนเร้น! สธ.เดินหน้าช่วยเหลือเขตสุขภาพ 1 อัตราฆ่าตัวตายสูงที่สุดในประเทศ
วิกฤตสุขภาพจิตในเขตสุขภาพที่ 1 ทวีความรุนแรง กรมสุขภาพจิต (สธ.) ได้ตระหนักถึงปัญหาอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จที่สูงที่สุดในประเทศในเขตสุขภาพที่ 1 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคเหนือ ทำให้ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
ทีม HOPE Task Force นำร่องช่วยเหลือ เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ กรมสุขภาพจิตได้ขับเคลื่อนทีม HOPE Task Force ซึ่งเป็นทีมเฉพาะกิจที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตในภาวะวิกฤต โดยเริ่มนำร่องใน 4 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง และพะเยา
เสริมทักษะบุคลากรรับมือภาวะวิกฤต ทีม HOPE Task Force จะทำการฝึกอบรมและเสริมสร้างทักษะการตอบสนองต่อภาวะวิกฤตสุขภาพจิตให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในเขตสุขภาพที่ 1 เพื่อให้สามารถให้การช่วยเหลือเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว รวมถึงการคัดกรองความเสี่ยง การให้คำปรึกษา และการส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยงานที่เหมาะสม
สาเหตุของปัญหาที่ซับซ้อน อัตราการฆ่าตัวตายที่สูงในเขตสุขภาพที่ 1 ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่เป็นผลมาจากปัจจัยที่ซับซ้อนหลายประการ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ ความยากจน ปัญหาสังคม ปัญหาครอบครัว ปัญหาการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต และการตีตราทางสุขภาพจิต
แนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน การแก้ไขปัญหาอัตราการฆ่าตัวตายในเขตสุขภาพที่ 1 จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน และชุมชน โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขภาพจิต การลดการตีตราทางสุขภาพจิต การส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพจิต การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพจิตที่ดี
การดูแลสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องของใครคนเดียว สธ. จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันสร้างสังคมที่ใส่ใจสุขภาพจิต และพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพจิต เพื่อลดอัตราการฆ่าตัวตายให้ได้มากที่สุด
