เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังซบเซา! ธปท.ปรับนโยบายการเงินรับมือความเสี่ยง – ยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

2025-07-09
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังซบเซา! ธปท.ปรับนโยบายการเงินรับมือความเสี่ยง – ยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด
มติชน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังว่ามีแนวโน้มที่ซบเซาและเติบโตต่ำกว่าศักยภาพที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ทางธปท.ตัดสินใจปรับนโยบายการเงินเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทาย

นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ได้ให้ข้อมูลเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้มีความเสี่ยงที่จะเติบโตได้ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ออกมาก็ตาม สาเหตุหลักมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความขัดแย้งทางการค้า และความผันผวนของราคาน้ำมัน

ปรับนโยบายการเงินเพื่อรับมือความเสี่ยง

เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ธปท.จึงมีความจำเป็นต้องปรับนโยบายการเงิน โดยจะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย การผ่อนคลายหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ หรือการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

ไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ทาง ธปท.ยังคงยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด (Deflation) ซึ่งหมายถึงสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการลดลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง อย่างไรก็ตาม ธปท.จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในอนาคต

การปรับนโยบายการเงินของ ธปท. จะมีส่วนช่วยในการประคองเศรษฐกิจไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตได้ดีในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโครงสร้าง และเร่งรัดการลงทุนในโครงการต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้

สรุป

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังนี้มีความท้าทายอย่างมาก แต่ด้วยการปรับนโยบายการเงินของ ธปท. และความพยายามของทุกภาคส่วน เชื่อว่าจะสามารถช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

คำแนะนำ
คำแนะนำ