ออมสิน 5 ปี เปลี่ยนโฉมสู่ 'ธนาคารเพื่อสังคม' ช่วยดันคุณภาพชีวิตคนไทยกว่า 13 ล้านคน

ออมสิน ผันตัวเป็น 'ธนาคารเพื่อสังคม' ช่วยคนไทยกว่า 13 ล้านคน ตอกย้ำบทบาทสำคัญใน 5 ปีที่ผ่านมา
ธนาคารออมสิน (GSB) เดินหน้าภารกิจสำคัญในการเป็น 'ธนาคารเพื่อสังคม' อย่างเต็มตัว หลังปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่เมื่อปี 2563 โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงความสำเร็จในการพลิกโฉมองค์กรและผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) ว่า ธนาคารฯ ได้มุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินที่เข้าถึงง่ายและตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในระดับฐานรากและผู้ที่ต้องการโอกาสในการพัฒนาชีวิต
ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ:
- ช่วยเหลือผู้คนกว่า 13 ล้านคน: ออมสินได้มอบสินเชื่อและบริการทางการเงินที่หลากหลาย ช่วยให้ผู้คนกว่า 13 ล้านคนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ เสริมสร้างรายได้ และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- ส่งเสริมธุรกิจ SMEs และชุมชน: ธนาคารฯ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และชุมชนท้องถิ่น ผ่านการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ การจัดอบรมสัมมนา และการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ
- พัฒนาโครงการเพื่อสังคม: ออมสินได้ริเริ่มและพัฒนาโครงการเพื่อสังคมมากมาย เช่น โครงการบ้านเอื้ออาทิตย์ โครงการส่งเสริมการศึกษา และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
- สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ: การดำเนินงานของออมสินมีส่วนช่วยในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในระดับฐานราก และส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
การพลิกผันสู่ 'ธนาคารเพื่อสังคม':
การเปลี่ยนแปลงสู่ 'ธนาคารเพื่อสังคม' ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปรับเปลี่ยนชื่อเรียก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการดำเนินงานของธนาคารฯ โดยมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการแสวงหาผลกำไร
ความมุ่งมั่นในอนาคต:
ออมสินมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าภารกิจ 'ธนาคารเพื่อสังคม' ต่อไป โดยจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น และจะร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาทางสังคมและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
บทสรุป:
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ธนาคารออมสินได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า สามารถพลิกโฉมองค์กรให้เป็น 'ธนาคารเพื่อสังคม' ที่สร้างประโยชน์ให้กับคนไทยได้อย่างแท้จริง และพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป