ยิ่งลักษณ์ต้องจ่าย 1 หมื่นล้าน! วรวัจน์งง หลักการบริหารการเงินรัฐบาลไม่เคยขาดทุน ทำไมต้องสั่งให้ชดใช้?
เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเมื่ออดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้สร้างความแปลกใจให้กับ วรวัจน์ ลิ่มรัตน์ อดีต ส.ส. พลังงาน พรรคเพื่อไทย อย่างมาก
วรวัจน์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยชี้ว่า หลักการบริหารการเงินของรัฐบาลทุกยุคสมัย ไม่เคยมีการใช้คำว่า “ขาดทุน” กับนโยบายใดๆ มาก่อน ซึ่งการสั่งให้มีการชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากเช่นนี้ อาจส่งผลให้ไม่มีใครกล้าที่จะริเริ่มนโยบายที่ดีเพื่อประชาชน เพราะเกรงว่าจะถูกเล่นงานทางการเมือง
“ผมรู้สึกแปลกใจมากที่สั่งให้คุณยิ่งลักษณ์ชดใช้ 1 หมื่นล้าน หลักการบริหารการเงินทุกรัฐบาลไม่เคยใช้คำว่าขาดทุนกับนโยบายมาก่อน” วรวัจน์กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568
ประเด็นนี้จุดประกายการถกเถียงในวงกว้างเกี่ยวกับความเหมาะสมของการบังคับชดใช้ค่าเสียหายทางการเมือง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการดำเนินนโยบายในอนาคต นักวิชาการและนักกฎหมายหลายท่านได้แสดงความเห็นว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่เป็นธรรม และส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย
การชดใช้ค่าเสียหายของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เกิดขึ้นจากกรณีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งศาลฎีกาได้ตัดสินว่าโครงการดังกล่าวมีความผิดปกติ และยิ่งลักษณ์มีความรับผิดชอบทางละเมิดต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรัฐ
อย่างไรก็ตาม วรวัจน์ ลิ่มรัตน์ ยังคงยืนยันว่า การสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมากเช่นนี้ อาจเป็นการใช้กระบวนการทางกฎหมายเพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง และส่งผลเสียต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว
ข้อกังวลเกี่ยวกับนโยบายในอนาคต
วรวัจน์ยังได้แสดงความกังวลว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจทำให้ข้าราชการและนักการเมืองไม่กล้าที่จะเสนอและดำเนินนโยบายใหม่ๆ ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพราะเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องและสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายในอนาคต
“ถ้าทำอะไรแล้วต้องมานั่งกลัวว่าจะมีคนฟ้องร้องสั่งให้ชดใช้ ผมว่ามันไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประเทศเลย” วรวัจน์กล่าว
ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายและการส่งเสริมการพัฒนานโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
